ผิวสวย สำหรับสาวมีรอบเดือน
ระบบฮอร์โมนในร่างกายเราจะเริ่มเมื่อมีประจำเดือนเป็นวันแรกจนถึงวันสุดท้าย กินเวลาได้
ตั้งแต่ 21-40 วัน วงจรการผลิต(ตก)ไข่ คือ เมื่อเกิดการตกไข่และรอการผสมจนกระทั่งฝ่อไป จะเกิด
ขึ้นในช่วงหรือประมาณวันที่ 14 ของรอบเดือน ช่วงสัปดาห์แรกหลังจากหมดประจำเดือนครั้งสุดท้าย
ฮอร์โมนเอสโทรเจนจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดสิวได้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันก่อนมีรอบ
เดือนจะมีโอกาสมากที่สุดที่จะมีผิวที่มันเยิ้มและเป็นสิวค่ะ
สิ่งที่ควรมองหา...สิ่งบ่งบอกถึงปัญหาผิวที่เกิดจากระบบฮอร์โมนคือ..
มักมีสิวเกิดขึ้นในช่วงอาทิตย์ก่อนจะมีรอบเดือนและมีสิวขึ้นมากบริเวณขากรรไกร คางและ
คอ ผิวจะเซ้นส์ซิทีฟมากในระหว่างช่วงอาทิตย์ที่ 4 ของระบบรอบเดือน ช่วงนี้ควรงดการแว๊กซ์ขนและ
นวดหน้าอย่างยิ่ง มักจะมีรอบเดือนที่ไม่สม่ำเสมอและ/หรือมีขนขึ้นมากผิดปกติบนใบหน้าหรือบนร่าง
กายร่วมกับการเกิดสิว อาการนี้อาจเกิดจากระบบฮอร์โมน
แก้ไขแบบง่ายๆ
1. เลือกเคลนเซอร์ทำความสะอาดผิวอย่างฉลาดเมื่อใดที่ผิวอยู่ในสภาพย่ำแย่มากๆให้เลือก
ใช้เคลนเซอร์ที่มีประสิทธิภาพช่วยละลายการอุดตันของรูขุมขนอย่างที่มีส่วนผสมของ
salicylic acid
2. เพิ่มขั้นตอนผลัดผิวที่อ่อนโยนเข้าไปในกิจวัตรประจำวัน ทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งเป็นประจำ
เพื่อช่วยทำให้เซลล์เสื่อมสภาพที่เข้าไปอุดตันในรูขุมขนและกักเก็บน้ำมันส่วนเกิน (ที่ทำ
ให้เกิดสิวอุดตัน) หลุดออกมาได้ง่ายขึ้น
3. ถึงผิวจะมันก็ไม่ควรมองข้ามขั้นตอนการบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์แต่เลือกชนิดที่ไม่
มีส่วนผสมของน้ำมัน (oil-free) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (noncomedongenic)
4. ใช้ผลิตภัณฑ์แต้มสิวที่ได้ผล
โปรแกรมดูแลผิว เพื่อแก้ปัญหาสิวก่อนรอบเดือน
ช่วงประจำเดือนมาอาทิตย์ที่ 1
สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ก็คือ ระดับฮอร์โมนในร่างกายจะลดต่ำลงอย่างฉับพลันในระหว่างเดือนทำให้ผิวพรรณฟื้นตัวจากอาการสิวเห่อก่อนรอบเดือนและทำให้ผิวดูหมองกว่าที่เคย สิ่งที่ควรทำ ก็คือการดูแลผิวที่สม่ำเสมอและอ่อนโยนเป็นพิเศษ เลือกกิจวัตรทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนใช้เคลนเซอร์ที่ไม่ทำร้ายผิวมากจนเกินไป แค่ปลายนิ้วก็เพียงพอแล้วที่จะนวดผิวในขณะทำความสะอาดด้วย
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว อย่างอะโลเวร่าหรือชาเขียว บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอรหรือมาส์กผลัดผิวเพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวจากการหลุดลอกและช่วยพลิกฟื้นผิวที่หม่นหมองให้ดูสดใสขึ้นทิ้งมาส์กไว้บนผิวหน้าประมาณ 10 นาที เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต้มสิว สำหรับสิวที่เหลืออยู่ ซึ่งมี
ส่วนผสมของสารที่ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนอย่าง salicylic acid หรือมีคุณสมบัติช่วยฆ่าแบคทีเรียอย่าง benzoyl peroxide ปกปิดสิวที่ยังไม่หายด้วยคอนซีลเลอร์ชนิดไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ซึ่งมีส่วนผสม ช่วยกำราบสิวอย่าง salicylic acid หรือ sulfur
อาทิตย์หลังการมีประจำเดือนอาทิตย์ที่ 2
ในช่วงนี้ ระดับฮอร์โมนแอสโทรเจนในร่างกายจะลดต่ำลงอย่างถึงที่สุด และฮอร์โมนอีกตัวในร่างกาย คือโปรเจสเตอโรนพุ่งขึ้นสูง การที่ระดับฮอร์โมนเกกิดการผันผวนนี้ทำให้ผิวมันและเกิดสิว
ได้ สิ่งที่ควรทำ คือการรักษาสภาพผิวและการป้องกันในช่วงนี้ ถึงแม้ว่าผิวจะยังดูดีอยู่ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยนะคะ ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง และทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางให้สะอาดหมดจดทุกครั้งหลังแต่งหน้าและก่อนเข้านอน ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวชนิดเดิมที่ใช้อาทิตย์แรก ช่วงนี้เน้นความสะอาดของผิวพรรณ ผลัดผิว โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดผิวจากสารเคมีที่ช่วยส่งเสริมการผลัดผิวตามธรรมชาติ เช่นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ กรดไกลโคลิก กรดแลคติกหรือกรดซาลิไซลิก นัดทรีทเมนท์ผิวหน้า &เพราะเวลานี้ผิวจะไม่เซ้นส์ซิทีฟมากจึงเป็นช่วงที่เหมาะจะดูแลผิวหน้าด้วยการนวดหรือทรีทเมนต์ต่างๆ
ช่วงไข่ตก อาทิตย์ที่ 3
ช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่ผิวดูดีและเนียนใสที่สุดของเดือน ต้องขอบคุณการเพิ่มของระดับฮอร์โมนแอสโทรเจน (เอสโทรเจนช่วยรักษาระดับน้ำมันบนผิว) สิ่งที่ควรทำใช้ผลิตภัณฑ์กำราบสิวและการผลัดเซลล์ผิว ช่วงนี้ล่ะควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสิวได้แล้วเป็นประจำทุกวันจนกระทั่งเริ่มมีประจำเดือนเริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการทำความสะอาดผิว โดยทำความสะอาดผิวทั้งเช้าและเย็นแต่หากว่ามีผิวที่มันมากให้เพิ่มการใช้โทนเนอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หลังการล้างหน้าเพื่อทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก (แต่หากว่าผิวแห้งมากๆก็ควรเว้นากรใช้โทนเนอร์) แล้วลองใช้มาส์กพอกผิวที่ช่วยลดการเกิดสิวสำหรับอาทิตย์นี้ ดูแลผิวช่วงก่อนนอนด้วยผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันการเกิดสิวเลือกที่มีส่วนผสมของ
ซาลิไซลิก แอซิด ไกลโคลิก แอซิด เพอร์รอกไซด์และที ทรี ออยล์ ใช้กระดาษซับความมัน ในช่วงอาทิตย์นี้และอาทิตย์ถัดไป พกพาเอาไว้ติดตัวเพื่อซับเอาน้ำมันออกจากผิว
อาทิตย์ช่วงก่อนเริ่มมีประจำเดือน อาทิตย์ที่ 4
ช่วงนี้ระดับฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนยังเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ฮอร์โมนเอสโทรเจนตกฮวบลง ช่วง
นี้ล่ะบรรดาสิวทุกรูปแบบจะเริ่มปรากฎ ผิวจะมีความมันที่สุด สิ่งที่ควรทำ อ่อนโยนกับผิวพรรณให้มาก
พยายามหลีกเลี่ยงการเกิดบาดแผลบนผิว เช่น การแว๊กซ์ขน การทำเลเซอร์ การขัดผิวและทรีทเมนต์
หน้าแบบต่างๆผู้หญิงหลายคนจะพบว่าการทำทรีทเมนต์ผิวแบบใดก็ตามในช่วงนี้จะรู้สึกเซ้นส์ซิทีฟมาก
ดูแลผิวบริเวณที่เป็นสิวทั้งเช้าและเย็น(ก่อนนอน) ด้วยผลิตภัณฑ์แต้มสิว เพิ่มเข้าไปในขั้นตอนการทำ
ความสะอาดวันละ 2 ครั้งทุกวัน ใช้มาส์กพอกผิวสำหรับสิวอย่างน้อย 2 ครั้งในช่วงอาทิตย์นี้ เพื่อช่วย
ลดการอุดตันรูขุมขน มองหาส่วนผสมที่จะช่วยทำให้สิวแห้งเร็ว คือ sulfur อำพรางรอยสิวด้วยเครื่อง
สำอางที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิก แอซิด แล้วเลือกชนิดที่บอกว่าไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน ครั้ง
ต่อไปที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้า อย่าลืมดูส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ด้วยนะคะ
ขั้นตอนการเกิดสิว
1. เมื่อร่างกายเริ่มผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจน มักเกิดขึ้นในช่วงก่อน/หลังมีประจำเดือนซึ่งจะ
กระตุ้นให้ต่อมไขมันใต้ผิวขยายใหญ่ขึ้น
2. เมื่อต่อมไขมันถูกขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วน้ำมันนี้จะเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตาม
ธรรมชาติของผิว แต่เมือ่ถูกผลิตออกมามากเกินไปยิ่งซ้ำร้ายหากในขณะที่ทำกลังเดินทาง
จากต่อมไขมันสู่ปากรูขุมขน เกิดไปผสมเข้ากับแบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งอยู่ใน
รูขุมขน ทำให้เกิดการเข้มข้นเป็นพิเศษ จึงเกิดการอุดตันรูขุมขนอันเป็นสาเหตุของการเกิด
สิว
3. ตามปกติ เซลล์ที่ตายแล้วในรูขุมขนจะค่อยๆถูกกำจัดออกสู่ปากรูขุมขนโดยน้ำมันหรือ
เหงื่อ แต่เมื่อฮอร์โมนแอนโดรเจนกระตุ้นให้ต่อมไขมันใหญ่ขึ้นและผลิตน้ำมันออกมามาก
ขึ้น เซลล์ผิวหนังในรูขุมขนก็จะผลิตและตายเร็วขึ้นด้วย เมื่อมีเซลล์ที่ตายอยู่มาก ก็จะเกิด
การอุดตันในรูขุมขนมากขึ้นเป็นทวีคูณ
4. เมื่อรูขุมขนเกิดอุดตัน บวกเข้ากับเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งปกติแล้วก็อาศัยอยู่ตามผิวหนังและรู
ขุมขน แต่เมื่อเกิดการอุดตัน เจ้าเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ซึ่งไม่ชอบออกซิเจน ก็จะแบ่งตัวได้
อย่างรวดเร็วผิดปกติ จนเกิดเป็นสาเหตุของการอักเสบในรูขุมขนขึ้น
5. เมื่อเกิดการอักเสบขึ้นแล้ว เม็ดเลือดขาวในร่างกายก็จะส่งมาเพื่อฆ่าแบคทีเรียนี้ ตอนนี้นั่ง
เอาที่ทำให้สิวเกิดเป็นตุ่มแดง บวม เจ็บ และเกิดเป็นหัวหนองในที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ที่มา :
http://www.teenee.com