http://www.icnurse.org/webboard/webboardDetail.php?detailID=825ลดความเสี่ยงจากการแพร่เชื้อวัณโรค ในบริเวณจุดที่ทำงาน
ใครคิดว่าเครื่องกรองอากาศทั่วไป ก็ใช้ได้เหมือนกัน ดูเรื่องที่นี่ก่อน
ใครว่าทำงานใกล้กับผู้ใช้บริการ แล้วไม่มีทางลดความเสี่ยงได้ ดูที่นี่ก่อน
http://eradio-med.moph.go.th/codelogmed/view.php?No=302**************************************************************************
กลไกการทำลายเชื้อแบคทีเรียของอนุภาคพลาสม่าคลัสเตอร์
(Bactericidal effects of plasma-generated cluster ions)
ตีพิมพ์ใน Abstract ของวารสารการแพทย์ Med.Biol.Eng.Comput.,2005,43,800-807
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Diget , A.Temiz Artmann , K.Nishikawa , M.Cook , E.Kurulgan , G.M.Artmann
University of Applied Sciences, Aachen , Germany
Sharp Corporation , Japan
ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์เป็นการพ่นอนุภาค + และ ? ออกมา จากผลการทดสอบที่ผ่านมาหลายๆครั้งยืนยันได้ว่าเป็นอาวุธอย่างดีในการทำลายเชื้อโรคหลากหลายสายพันธุ์ แต่เราก็ยังไม่ทราบกลไกการทำงานอย่างกว้างขวางนัก วัตถุประสงค์ของการทดสอบครั้งนี้เป็นการศึกษาวิธีการทำงานและประสิทธิภาพการทำลายเชื้อโรคของอนุภาคพลาสม่าคลัสเตอร์ที่มีต่อเชื้อโรคทั่วไปในครัวเรือน จากการทดลองหาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของอนุภาคที่ถูกพ่นออกมากับระยะเวลาที่ใช้ต่อเชื้อแบคทีเรียชนิด Staphylococcus, Enterococcus, Micrococcus และ Bacillus เราพบว่าปฎิกริยาการทำลายเกิดขึ้นทันทีภายในไม่กี่นาทีแรกของการพ่นอนุภาคพลาสม่าคลัสเตอร์ รวมถึงการทำลายเชื้อโรค 99.9% อย่างถาวรภายในเวลา 2-8 ชั่วโมง ผลการทำลายได้เกิดขึ้นที่ผนังเซลล์ของเชื้อโรค ซึ่งเราใช้จากการตรวจสอบแบบเทคนิค SOS PAGE และ 2D PAGE จึงได้บันทึกถึงการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนชั้นนอกที่ผนังเชื้อโรค รวมถึงการบันทึกผลต่อการสูญสลายไปทั้ง DNA และ cytoplasm ด้วย ยืนยันได้ว่าอนุภาคพลาม่าคลัสเตอร์ไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของผนังเชื้อโรคด้วยปฎิกริยาทางเคมี โดย active hydroxyl ที่เกิดขึ้นมีผลทำให้ผนังโปรตีนของเชื้อโรคถูกทำลายไป ขณะเดียวกันกับการสูญสลายของ DNA ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานของอนุภาคพลาสม่าคลัสเตอร์แต่อย่างใด ข้อมูลการทดสอบครั้งนี้จึงเป็นความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการนำระบบฆ่าเชื้อโรคนี้ไปทำให้เกิดประสิทธิผลในการประยุกต์ใช้กับเครื่องมือได้ดีขึ้น
**************************************************************************