ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤศจิกายน 28, 2024, 12:55:29 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก

ข่าว: สมาคมทันตแพทย์เอกชนไทย - Thaiprivatedent.com

+  thaiprivatedent.com
|-+  ห้องสำหรับทันตแพทย์
| |-+  พูดคุยสอบถามเรื่องทั่วไป
| | |-+  การใช้โอโซนในทางทันตกรรม
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: การใช้โอโซนในทางทันตกรรม  (อ่าน 8825 ครั้ง)
rmormee
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: มีนาคม 02, 2010, 09:31:36 AM »

การใช้โอโซนในทางทันตกรรม
ทันตแพทย์สงคราม เวียงธีรวัฒน์

การทำหัตถการทางทันตกรรมให้มีความปลอดเชื้อได้สูงสุด ถือเป็นปัจจัยหลักและสำคัญที่สุด ดังนั้นกระบวนการทำความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ให้ปราศจากเชื้อจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง  ในปัจจุบันการทำให้ปราศจากเชื้อมีหลายวิธี ที่นิยมปฏิบัติกันทั่วไปในคลินิคทันตกรรม จะใช้แอลกอฮอล์ 70%  ตู้อบความดันสูง และการแช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ทั้งนี้การเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับชนิดของอุปกรณ์และเครื่องมือ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการทำหัตถการทางทันตกรรม ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะอุปกรณ์และเครื่องมือเท่านั้น ยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ น้ำที่ใช้ในระบบล้าง  เครื่องปั๊มลม และสภาพของช่องปาก ดังนั้นหากมีวิธีการที่สามารถทำให้ปลอดเชื้อได้ในทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้อง น่าจะส่งผลให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด อันจะเกิดประโยชน์โดยตรงต่อผู้ป่วย
เราคงต้องยอมรับว่าการทำให้ปราศจากเชื้อยังคงเป็นปัญหาในทางปฏิบัติ อาทิ บริเวณจุดต่างๆของอุปกรณ์และเครื่องมือบางชนิดไม่ได้ถูกทำให้ปลอดเชื้อได้อย่างจริงจัง เช่น หัวกรอ  ทั้งชนิด aerator หรือ micro-motor และ triple syringe  ทั้งที่จัดเป็นอุปกรณ์ที่ใช้บ่อยและเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการทำหัตการแต่ละครั้ง นอกจากนี้ จากผลรายงานการวิจัยของกระทรวงสาธารณสุขอเมริกา1 พบว่า ทุกครั้งที่ใช้ triple syringe เป่าน้ำหรือลม จะเกิดสูญญากาศภายในทำให้เกิดการดูดกลับได้เล็กน้อย และด้วยข้อจำกัดของอุปกรณ์เหล่านี้ที่ไม่สามารถนำเข้าตู้อบเพื่อฆ่าเชื้อได้เพราะจะทำให้เสียสภาพ ในทางปฏิบัติเพื่อทำให้ปลอดเชื้อ คลินิคส่วนใหญ่จึงนิยมใช้ แอลกอฮอล์ 70% เช็ดทำความสะอาด แล้วพันหุ้มไว้แต่ภายนอกเท่านั้น แม้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ได้พยายามสร้างเครื่องมือที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อ  ในรูปสเปรย์ที่ผสมกับน้ำมันหล่อลื่นและสารเคมีที่ใช้ฆ่าเชื้อ มาจำหน่ายในท้องตลาด แต่ไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากค่อนข้างยุ่งยากต่อการใช้งาน และราคาแพงมาก
ความสะอาดของน้ำที่ใช้ในระบบล้างเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลต่อการติดเชื้อ  โดยทั่วไป จะใช้ทั้งจากน้ำประปาโดยตรง และผ่านเครื่องกรอง ความสะอาดของน้ำที่ใช้จึงขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อของคลอรีนเป็นหลัก ซึ่งสามารถทำลายเชื้อทั่วไปได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น 
สำหรับระบบลม เนื่องจากเครื่องปั๊มลมทำงานโดยการอัดอากาศรอบตัวเครื่องเข้าไปเก็บไว้ในถังที่ทำมาจากวัสดุประเภทเหล็ก  เพื่อเตรียมระบบลมไว้ใช้สำหรับเป่าลมในช่องปาก  ความสะอาดของลมที่ได้จึงขึ้นอยู่กับอากาศที่อยู่ภายนอกบริเวณเครื่องปั๊มลม อย่างไรก็ตาม เครื่องปั๊มลมส่วนใหญ่มักจะถูกติดตั้งไว้ในที่ห่างไกลเพื่อลดเสียงรบกวนและมักเป็นบริเวณที่อับชื้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราให้กับผู้ป่วย
เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ในช่องปากเอง ประกอบด้วยเชื้อโรคต่างๆมากมาย บางชนิดเป็นสาเหตุของโรค เช่น โรคฟันผุ และการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน จึงเป็นการยากสำหรับการรักษาโรคที่ต้องการให้ปลอดเชื้อในระหว่างการทำหัตถการทางทันตกรรม เช่น การรักษาคลองรากฟัน การอุดฟัน การติดเชื้อจากการถอนฟัน การผ่าตัดภายในช่องปาก การอักเสบจากโรคปริทันต์  การรักษาดังกล่าวจึงต้องอาศัยกระบวนการที่ประกอบด้วยหลายขั้นตอน บางครั้งอาจต้องให้ยาต้านจุลชีพ(Antibiotic)กับผู้ป่วย ซึ่งอาจส่งผลต่อการดื้อยาหากมีการใช้ต่อเนื่องในระยะยาว  ดังนั้นหากเราสามารถกำจัดเชื้อได้โดยตรงในระหว่างการทำหัตถการ อาจช่วยลดการใช้ยาฆ่าเชื้อและลดขั้นตอนในการทำหัตถการ
การเลือกวิธีการทำให้ปราศจากเชื้อที่เหมาะสมตามหลักวิชาการ จัดเป็นความท้าทายประการหนึ่ง เนื่องจากความหลากหลายและความแตกต่างของอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการทำหัตถการทางทันตกรรม ทั้งขนาด ความซับซ้อน ความคม ปริมาณ และราคา ซึ่งนอกจากต้องคำนึงถึงการทำให้ปลอดเชื้อให้ได้ประสิทธิภาพ และ ผลเสียที่อาจเกิดกับผู้ป่วย อันอาจเกิดจากสารตกค้างแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการรักษาสภาพของอุปกรณ์และเครื่องมือเหล่านั้นให้คงสภาพเช่นเดิม เช่น อุปกรณ์มีคม  และอุปกรณ์ที่มียางเป็นส่วนประกอบ เป็นต้น รวมทั้งจะต้องคำนึงถึงการจัดการสำรองอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็น ให้มีปริมาณที่เหมาะสมเพียงพอต่อการทำหัตถการอย่างต่อเนื่องทันต่อการใช้งาน โดยไม่ลดอายุการใช้งานของเครื่องมือและอุปกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์และเครื่องมือที่มีราคาแพง
เป็นที่น่ายินดี ที่โอโซนซึ่งเป็นสารจากธรรมชาติ มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อได้ครอบคลุมทั้งไวรัส แบคทีเรีย ยีสต์ เชื้อรา และสปอร์ ออกฤทธิ์โดยเป็นตัวออกซิไดซ์ในการทำปฏิกิริยากับเชื้อ อีกทั้งไม่มีสารตกค้าง ทำให้ปัจจุบันได้มีการนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง  ทั้งทางด้านอุตสาหกรรมทางด้านอาหาร การเกษตร2-10 ตลอดจน วงการแพทย์ ที่มีการประยุกต์ใช้ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย อาทิเช่น การนำโอโซนไปใช้ในการอบห้องผ่าตัดและเครื่องมือเพื่อกำจัดเชื้อ หรือ การนำเอาโอโซนเจือจางในน้ำ แล้วสอดสายยางเข้าทางทวารหนัก เพื่อให้ลำไส้ดูดซึมเอาโอโซนเข้าไปช่วยสลายสารพิษและฆ่าไวรัสในตับ ของแพทย์ในประเทศเยอรมัน15 เป็นต้น  ดังนั้น การนำโอโซนมาประยุกต์ใช้ในการทำหัตถการทางทันตกรรม น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
    โอโซนประกอบด้วยออกซิเจน 3 อะตอม(O3) ที่มีอยู่ในธรรมชาติเกิดจากการแปรรูปของอะตอมออกซิเจนภายใต้ความกดดันสูง เช่น ฟ้าผ่า เป็นต้น ส่วนใหญ่อยู่ทั่วไปในชั้นบรรยากาศ ทำหน้าที่กรองรังสีต่างๆ ให้กับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลก  โอโซนในชั้นของบรรยากาศเป็นก๊าซสีน้ำเงินอ่อน มีกลิ่นฉุนจัดถึงแม้จะมีปริมาณเพียงน้อยก็ตาม (มากกว่า 0.005 ppm.) และในปริมาณที่มากพอจะมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ มีความสามารถในการทำลายเชื้อได้อย่างรวดเร็วที่ครอบคลุมทั้ง ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ และสปอร์ โอโซนสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและอากาศกลายเป็นน้ำหรืออากาศผสมโอโซนและเนื่องจากเป็นก๊าซที่ไม่คงที่จึงค่อยๆสลายตัวได้ออกซิเจน ทำให้ไม่เกิดสารตกค้างที่เป็นอันตราย จากคุณสมบัติทางเคมีข้างต้น สามารถนำประโยชน์ของโอโซนไปใช้ได้อย่างกว้างขวางทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิเช่น กำจัดเชื้อโรคในน้ำและอากาศ กำจัดกลิ่น และทำน้ำให้บริสุทธิ์ เป็นต้น 
ในทางทันตกรรม ได้มีการประยุกต์ใช้ High Voltage ผลิตโอโซนขึ้นจากอากาศ ให้อยู่ในรูปของน้ำผสมโอโซนและอากาศผสมโอโซน เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้สะดวก และเนื่องจาก ความสามารถในการทำลายเชื้อ มีความสัมพันธ์กับความเข้นข้นของโอโซนซึ่งมีหน่วยวัด เป็น ppm.(Part per million) (1 ppm. หมายถึง 1 อะตอม ต่ออากาศ หรือน้ำ 1 ล้านโมเลกุล) ในการผลิตจึงต้องควบคุมปริมาณโอโซนให้ได้ความเข้มข้นที่เหมาะสมต่อการทำลายเชื้อ วิธีการนำมาใช้ทำโดยนำน้ำผสมโอโซนและอากาศผสมโอโซนที่ได้มาใช้แทนน้ำและลมธรรมดาผ่านอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นในการทำหัตถการ ผลที่ได้สามารถใช้ช่วยเตรียมช่องปาก ฟัน คลองรากฟันให้ปลอดเชื้อก่อน หรือ ระหว่าง ทำหัตถการด้านทันตกรรม และสามารถนำใช้ในการทำความสะอาดอุปกรณ์ สำลี ผ้าก๊อซ เครื่องมือทันตกรรม ให้ปราศจากเชื้อ เพื่อช่วยปิดจุดอ่อนในการควบคุมการทำให้ปลอดเชื้อของอุปกรณ์และเครื่องมือได้อีกด้วย   
โอโซนเป็นสารธรรมชาติ มีการยอมรับในเรื่องการกำจัดเชื้อได้ครอบคลุม11-14 รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ  ไม่มีสารตกค้างที่ก่อให้เกิดผลเสีย ไม่ทำอันตรายต่อร่างกายหากใช้ถูกวิธี ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมเพราะผลจากการสลายตัวได้ออกซิเจนซึ่งเป็นผลดีต่อสภาพน้ำ5  นอกจากนี้ ยังได้รับการประยุกต์เครื่องมือขึ้นมาใช้ก่อให้เกิดความสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน  คุณสมบัติและประโยชน์ดังกล่าว สอดคล้องกับวิธีการที่สามารถทำให้ปลอดเชื้อได้ในทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้อง  โอโซนจึงนับเป็นทางเลือกใหม่ของการทำให้ปลอดเชื้อในวงการทันตกรรม

หนังสืออ้างอิง
1.   ADA Statement on Backflow Prevention and the Dental Office: www.ada.org/prof/resources/topics/cdcสืบค้นใน www.google.com
2.   Chen, H. H., E. M. Chiu., and J. R. Huang (1997). Color and Gel Forming Properties of Horse Mackerel(Trachurus japonicus) as Related to Washing conditions. J
3.    Food Sci. 62 : 985 – 991
4.   Dew, T. L. (2005). Ozone Degradation of Off – Flavors in Catfish. A Thesis Submitted to the Graduate Faculty of The Louisiana State University and Agricultural and Mechanical College. In The Department of Food Science, 69 p
5.   Gottschalk, J. A. Libra, and Saupe (2000). Ozonation of Water and Waste Water. Weinheim. New York, 189 p
6.   Graham, D. M. (1997). Use of Ozone for Food Processing. Food Technology, 51(6) ; 72 – 75.
Hoige, 1982
7.   Jieng, Shan – Tzang, H.O. Ming – Lang, Sheng – H. O. Jiang , and Hsing - Chen Chen (1998). Purified NADPH – Sulfite Reductase from Saccharomyces cerevisiae Effects on Quality of Ozoned Mackerel Surimi. J. Food Sci. 63 (5) : 777 – 781.
8.   Kaminski, J. C., and P. W. Prendiville . (1996). Milwaukee,s Ozone Upgrade, Civil Engineering,
September : 62 – 67.
9.   Kim, J. G., Yousef, A. E. , and S. Daves (1999). Application of Ozone for Enhancing the Microbiological Safety and Quality of Foods. Journal of Food Protection. 62 : 1071 – 1087.
10.   Martin, J. F., L. W. Bennett, and W. H. Graham (1988). Off – Flavor in the Channel Catfish (Icatlurus punctatus) due to 2 – methylisoborneol and its Dehydration Products. Water Sci. Technol. 29 (8/9) : 65 – 99.
11.   Mudd, J. B., L. Leavith, A. Ongun, and T. T. McManas (1989). Reaction of Ozone with Amino Acid and Protein. Atoms Environ. 23 : 669 – 674.
Rip, 1984
12.   Tomiyasu, H. H., Fukutomi, and G. Godon. (1985). Kinetics and Mechanisms of Ozone Decomposition in Basic Aqueous Solutions. Inorganic Chem. 24 : 2962 – 2985.
http://www.ozoneapplications.com/info/cd_vs_uv.htm) (2008) สืบค้นใน www.google.com
http://www.ozonesolutions.com/Ozone_Formation.html (2008) สืบค้นใน www.google.com
http://www.ozone.meteo.be/meteo/view/en ... 6-Formatio (2008) สืบค้นใน www.google.com
www.silvermedicine.org (2008) สืบค้นใน www.google.com
13.   www.textbookofbacteriology.netสืบค้นใน www.google.com
14.   www.hopkins-aids.edu/pathogen/bacteria/pseudomonas_aeruginosaสืบค้นใน www.google.com
15.   นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุลมโอโซนและออกซิเจนบำบัด-ในดีมีร้าย ในร้ายมีดี, บทความจากมติชน, ฉบับที่ 1453 วันที่ 20 มิ.ย. 51

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 01, 2010, 07:16:20 AM โดย rmormee » บันทึกการเข้า
Kevinrawolf
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2015, 11:48:51 AM »

มีประโยชน์มากเลยครับเว็บนี้มีสาระมากชอบครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป:  



เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.9 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
designed by จัดฟัน เชียงใหม่
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.095 วินาที กับ 20 คำสั่ง