ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
มีนาคม 28, 2024, 06:16:35 PM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก

ข่าว: สมาคมทันตแพทย์เอกชนไทย - Thaiprivatedent.com

+  thaiprivatedent.com
|-+  Dental Talk
| |-+  พูดคุยสอบถาม เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับทันตกรรม
| | |-+  ถามเรื่อง อายุการใช้งานของImplant
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ถามเรื่อง อายุการใช้งานของImplant  (อ่าน 14953 ครั้ง)
ddspanya
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 341



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: สิงหาคม 11, 2009, 11:22:31 AM »

คำถามที่หมอ GP อย่างผมจะถูกถามประจำจากคนไข้ที่อยากจะใส่ Implant คือ  อายุการใช้งาน ใช้ได้กี่ปี  ใครก็ได้ที่มีความรู้เรื่องนี้ ช่วยตอบด้วย
บันทึกการเข้า
หมอนันทิยา
Global Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 659



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2009, 03:59:44 PM »

 :6: :6: :6: :6: :6:
รากฟันเทียมอยู่ได้นานแค่ไหน

การฝังรากฟังเทียมเป็นวิธีที่ทันตแพทย์ใช้ทดแทนรากฟันธรรมชาติ มานานกว่า 30 ปีแล้ว รากฟันเทียมทำจากไทเทเนียมนั้นมีความคงทนมาก อายุการใช้งานของรากฟันเทียมนั้นโดยทั่วไปจะคงทนตลอดชีวิต ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเป็นระบบตามที่ทันตแพทย์จัดวางไว้ ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาความสะอาดในช่องปาก รากฟันเทียมก็คล้ายกับรากฟันธรรมชาติ ที่จะได้รับความเสียหายจากการกระทบกระทั่ง หรือการเกิดโรคเหงือกอักเสบได้ หากไม่ดูแลรักษาให้ดี การดูแลรักษาก็เช่นเดียวกัน คือต้องหมั่นแปรงฟันทำความสะอาด ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน และเข้ารับการตรวจสภาพฟันกับทันตแพทย์อยู่อย่างสม่ำเสมอค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 15, 2009, 08:00:29 PM โดย nantiya2007 » บันทึกการเข้า
หมอนันทิยา
Global Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 659



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2009, 04:05:45 PM »

ข้อมูลเพิ่มเติม
 
            จุดกำเนิดของรากฟันเทียม ได้มีการค้นพบฟันเทียมที่ทำมาจากงาช้างและไม้ในอียิปต์ยุคโบราณ และในชนเผ่าพื้นเมืองของทวีปอเมริกา ต่อมาประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 18 พบว่าได้มีการนำฟันของศพมนุษย์ มาใช้ใส่แทนฟันที่ถูกถอนออกใหม่ ๆ จนถึงต้นศตวรรษที่ 19  มีบันทึกว่าได้มีการนำทองคำ มาทำเป็นฟันใส่แทนฟันที่ถอนออกแบบ สด ๆ  ต่อมาก็ได้มีการนำโลหะอื่นๆ มาทำเป็นฟันเทียมเหมือนกัน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จนัก เนื่องจากร่ายกายมีการต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย  จนปี 1959 ได้มีการทดลองปลูกโลหะไทเทเนียมลงบนกระดูกของกระต่าย และหลังจากนั้นในปี 1965 รากฟันเทียมที่ทำจากโลหะไทเทเนียมตัวแรก ได้ถูกปลูกลงบนกระดูกในร่ายกายมนุษย์ แล้วปรากฏว่าร่างกายให้การตอบสนองได้ดี สามารถยึดติดกับกระดูก และเนื้อเยื่อได้ดี จึงได้มีการใช้มาจนถึงปัจจุบัน


         รากฟันเทียมคือ การฝังวัสดุเทียมที่มีรูปร่างคล้ายรากฟันลงบนกระดูกขากรรไกรเพื่อทดแทนส่วนของรากฟันธรรมชาติที่หายไป และเพื่อช่วยให้ฟันปลอมภายในช่องปากทั้งชนิดถอดได้และ ชนิดติดแน่นยึดเกาะได้ดี รากฟันเทียมมีลักษณะเหมือนฟันชุดที่ 3 งอกออกมาจริงจากเหงือก ซึ่งส่วนของฟันปลอมจะติดอยู่กับรากฟันเทียม น้ำหนักการบดเคี้ยวจะกดลงไปที่กระดูกขากรรไกรเหมือนฟันแท้ทุกประการ



        รากฟันเทียมประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ

          1. รากเทียม (Fixture) ซึ่งทำมาจากโลหะไทเทเนียม (Titanium) มีลักษณะคล้ายรากฟัน และจะฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร ซึ่งสามารถยึดติดได้อย่างแนบแน่นโดยไม่ทำให้เนื้อเยื่ออักเสบ และไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ
          2. เดือยรองรับครอบฟัน (Abutment) เมื่อฝังรากเทียมบนกระดูกขากรรไกร เพื่อให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกรได้ดีต้องใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นจึงจะใส่เดือยรองรับครอบฟันลงบนรากเทียม เพื่อใช้เป็นที่รองรับครอบฟันต่อไป
          3. ครอบฟัน (crown) เป็นส่วนที่อยู่ด้านบนของเหงือก ซึ่งจะทำมาจากเซรามิค (porcelain) มีรูปร่างลักษณะและสีเหมือนฟันธรรมชาติ



ขั้นตอนการทำรากเทียม

          1. ทันตแพทย์ทำการตรวจ X-Ray ประเมินความหนาของ soft tissue ที่อยู่บนสันเหงือก จากนั้นก็จะผ่าตัดและฝังตัวรากเทียมที่ผลิตมาจากแท่งไทเทนเนียมบริสุทธิ์ลงไปในกระดูก เย็บปิดปากแผล หลังจากนั้น 7 วัน ทันตแพทย์จะนัดตัดไหมที่เย็บออก และให้คนไข้รอเวลา เพื่อให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกรได้ดี สำหรับฟันบน ใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน และ 2-3 เดือน สำหรับฟันล่าง
          2. เมื่อรากเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกรดีแล้ว ทันตแพทย์จะทำการต่อเดือยรองรับครอบฟัน (Abutment) เพื่อใช้เป็นที่รองรับครอบฟัน และพิมพ์ปากเพื่อส่งให้ Lab ทำครอบฟัน โดยครอบฟันนั้นทำมาจากวัสดุเซรามิค (porcelain)
          3. หลังจากนั้นประมาณ 1-4 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะใส่ครอบฟันให้ ซึ่งจะมีรูปร่างลักษณะ และสีสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ และ ทำหน้าที่ในการบดเคี้ยวได้ใกล้เคียงฟันธรรมชาติมาก
          4. ทันตแพทย์จะนัดตรวจเช็คอีก 1 เดือน 2 เดือน และ 6 เดือน เพื่อตรวจดูประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวให้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ สามารถรับประทานอาหารได้ทุกชนิด ทำความสะอาดได้ง่าย


             การดูแลแผลผ่าตัดและฝังตัวรากเทียมจะดูแลเช่นเดียวกับแผลผ่าตัดถอนฟันตามปกติ ซึ่งทันตแพทย์อาจให้คำแนะนำที่เฉพาะในแต่ละกรณีไป และนอกจากนี้ทันตแพทย์จะทำการนัดหมายให้ผู้ป่วยมาดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ฟันปลอมและรากเทีียมมีสภาพที่ดีและพร้อมใช้งานได้ตลอดไป อายุการใช้งานรากเทียมโดยทั่วไปจะคงทนตลอดชีวิต ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเป็นระบบตามที่ทันตแพทย์จัดวางไว้



          ข้อดีของท้นตกรรมรากเทียม

          1. ฟันมีลักษณะสวยงามเป็นธรรมชาติ ยิ้มได้อย่างมั่นใจ
          2. รับประทานอาหารได้ทุกชนิดตามความต้องการ และพูดได้ชัดเจน
          3. รู้สึกสะดวกสบายใกล้เคียงกับฟันแท้เดิม
          4. ช่วยให้ฟันแท้ที่อยู่ข้างเคียงกับกระดูกขากรรไกรไม่เข และอยู่ในสภาพปกติ
          5. มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง และมีบุคลิกภาพที่ดี


ความสำเร็จของการทำรากฟันเทียม   ขึ้นอยู่กับสภาพกระดูก การตอบสนองของเนื้อเยื่อคนไข้ และความชำนาญของผู้ให้การรักษาประกอบกัน หลังจากฟันเทียมยึดติดได้บนรากเทียม  ก็จะได้ฟันเทียมที่ดูเหมือนธรรมชาติ และใช้งานได้ดีเหมือนฟันแท้ ๆ ซึ่งความสวยงามของฟันเทียม ก็จะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาใช้ในการทำ และความสามารถของแล็ปทันตกรรมที่ผลิต ซึ่งแล็ปในประเทศไทยที่สามารถทำฟันได้เหมือนธรรมชาติมีมาก จนมีชาวต่างประเทศจำนวนมากเดินทางมาเพื่อทำฟันเทียมโดยเฉพาะทีเดียว ว่ากันว่าการทำรากเทียมนั้นถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายสูงมากแต่ก็เปรียบได้กับการซื้ออวัยวะที่ขาดหายไป สำหรับผู้สูงอายุที่มีสุขภาพทั่วไปสมบูรณ์ตามวัย ไม่มีโรคทางระบบบางประเภทที่เป็นข้อห้าม สามารถใช้ฟันปลอมที่มีการพยุงรับด้วยรากเทียมได้เช่นเดียวกับคนไข้ทั่วไป

          การดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก รวมไปถึงความสวยงาม จึงทำให้ทันตกรรมรากเทียมเริ่มเป็นที่นิยม ได้รับการยอมรับถึงผลสำเร็จในการรักษาและมีแนวโน้มที่จะมาแทนที่สะพานฟันมาก ขึ้น เพราะสะพานฟันมีข้อจำกัดอยู่บางประการ นั่นก็คือ คุณจำเป็นต้องกรอฟันซี่ข้างเคียงเพื่อเป็นหลักยึดของสะพานฟัน ทำให้สูญเสียเนื้อฟันธรรมชาติไป  สะพานฟันเป็นการเสริมฟันในส่วนที่อยู่ด้านบนของเหงือก ฉะนั้นเมื่อเวลาผ่านไปกระดูกที่รองรับรากฟันของซี่ที่ถูกถอนไปจะค่อยๆละลาย ลง ทำให้เกิดการยุบตัวของกระดูกในบริเวณนั้น โดยเฉพาะส่วนฟันหน้าด้านบน เมื่อกระดูกละลาย จะทำให้โครงหน้าเปลี่ยน และดูแก่กว่าวัย แต่รากเทียมจะช่วยรักษากระดูกรองรับรากฟันไว้ทำให้กระดูกบริเวณนั้นไม่ละลาย และคงสภาพเดิมไว้

          
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 16, 2009, 01:46:00 PM โดย หมอจอมยุ่ง » บันทึกการเข้า
หมอนันทิยา
Global Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 659



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 16, 2009, 08:16:57 PM »

คุณหมอศุภชัย ช่วยตอบด้วยนะคะ :4:
บันทึกการเข้า
supachai
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 17, 2009, 07:56:51 PM »

สวัสดีครับพี่ปัญญาและคุณหมอจอมยุ่ง

             ขออนุญาตเพิ่มเติมด้วยความรู้เล็กๆน้อยๆที่มีอยู่ว่า
                    รากเทียม.......อยู่ได้นานตราบเท่าที่เราอยากให้มันอยู่........
             
             ด้วยเหตุผลคือ   ถ้ามันจะไม่รอด มันจะตีจากเราไปตั้งแต่ช่วงก่อนLoad   หรืออย่างช้าก็หลังจากLoadไปแล้วไม่นาน แต่ถ้ามันรับLoadที่ถูกจัดตั้งอย่างถูกหลักการได้โดยไม่สะทกสะท้านสัก6เดือนถึง1ปี  นั่นย่อมแปลว่า ....มันจะอยู่ยาวได้ ขอเพียงเราบำรุงรักษาเขาตามปกติ และปรับเปลึ่ยนซ่อมแซมอะหลั่ยบ้างเมื่อมันเสื่อมโทรมตามการใช้งาน ตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในช่องปาก และตามวัย

            ยกเว้นฟันหน้า ทีไม่ควรการันตีความสวยงามในระยะยาว ผู้ให้การรักษาต้องมีประสบการณ์พอควรจึงจะประสบความสำเร็จเต็มตามที่คนไข้คาดหวังได้
             
                                                                                                                                          ขอบคุณครับ
                                                                                                                                                      ทพ.ศุภชัย :8:
         
บันทึกการเข้า
หมอนันทิยา
Global Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 659



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 17, 2009, 08:08:46 PM »

ขอบคุณคุณหมอศุภชัย มากค่ะ เย้ๆๆๆๆ   มีคนมาช่วยเราแล้วววว  :8: :8: :6: :3:
บันทึกการเข้า
miracleturtle
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 17, 2010, 08:31:31 PM »

เฮะ ๆ จาเอาไว้ใช้บอกคนไข้มั่ง อิอิ ขอบคุณค่ะ
บันทึกการเข้า
Interstellar50
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2021, 02:58:44 PM »

ลองเข้ามาอ่านดู ข้อมูลมีประโยชน์มากๆเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 13, 2021, 03:01:47 PM โดย Interstellar50 » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป:  



เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.9 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
designed by จัดฟัน เชียงใหม่
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 20 คำสั่ง