สุดท้าย สำหรับคนกลับเมืองไทยที่ NAGOYA  สามรถแวะSHOPPING ที่ MITSUI OUTLET ที่Nagashima ได้ครับ ที่นี่เป็นทั้งสวนสนุก สปา และOUTLET ครับ









ส่วนอาหารที่ใครๆมักไปทานที่ญี่ปุ่นเช่น ปู แนะนำร้านนี้ครับ  มีสาขาอยู่หลายแห่ง รวมทั้งที่ NAGOYA สด และ อร่อย มากครับ











ใครอยากทราบไรเพิ่มเติม สอบถามได้ครับ ถ้ารู้นะครับ  อิอิ

ไปเก็บ APPLE กัน ที่ KIYOMI ผู้ใหญ๋ 500 เยน เด็ก 300 เยน ตระกร้าใส่ผลไม้  1300 เยน

มาต่อกันที่ SHIRAKAWAGO ครับ

ไปเองครับ ไม่กล้าไปกลับทัวร์ครับเนื่องจากลูกๆตื่นสาย จะเป็นภาระให้คนอื่นไม่สนุกครับ มาต่อกันคับ ที่ TAKAYAMA

MATSUMOTO CASTLE

KAWAGUCHIGO  ไปดู FUJI ตอนปลอดหิมะ





























วาซาบิ ที่เราๆทานกัน























ร้านนี้แนะนำครับ ที่KAWAGUCHIGO อาหารอร่อย

วันต่อมาก็ DISNEYLAND จริงๆแล้วควรใช้เวลาที่ LAND 2วันครับ เนื่องจาก เครื่องเล่นเยอะมาก และคนก็เยอะด้วย ต้องวางแผนเล่นให้ดี โดยเฉพาะการกด FASTPASS





อันนี้น่าเล่น สนุก แม่เล่นแล้วชอบมากกกก



















ที่disney ขอแค่นี้ก่อนครับเข้าใจว่า ทุกคน เห็นมามากแล้ว  อ้ออย่าพลาด Electric parad นะครับ สวยมากครับ

TRIP นี้พา อาม่าของลูก ไปเที่ยวญี่ปุ่น ครับ สมาชิก ทั้งหมด ก็ 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 4 เด็ก 2

ระยะเวลา    6-13 ตุลาคม 2556

สรุป ค่าใช้จ่าย ที่สำคัญนะครับ
1.ค่าตั๋ว เครื่องบิน การบินไทย ลง นารตะ กลับ นาโกย่า เฉลี่ย 18000 บาท/คน
2.ค่าที่พัก
     2.1  hilton tokyo bay hotel ที่ disney resort  ประมาณ 7000/ห้อง/คืน
     2.2  HOTEL ROUTE INN ที่ KAWAGUCHIGO   ประมาณ   5000/ห้อง/คืน
     2.3  hida plaza hotel  ที่ takayama  ประมาณ  4500/ห้อง/คืน  
     2.4  CENTRAIR HOTEL ที่ CHUBU CENTRAIR INTERNATIONAL AIRPORT ประมาณ 4500/ห้อง/คืน
3.ค่าเช่ารถ  55,000 เยน  ค่าน้ำมัน  165 เยน/ลิตร ค่าทางด่วน ประมาณ 8000 เยน แนะนำเช่าของ toyota ครับเนื่องจาก GPS เป็น MAP และเสียงภาษาอังกฤษครับ

4.ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมๆแล้วน่าจะประมาณ  120,000 บาท ดูจากตอนแลกเงินคืน

trip นี้ก็เหมือนเดิมครับ เดินทางเช้า ด้วย A380 บริการสะดวกสบาย ตามแบบฉบับไทยๆ ถึงนาริตะ เวลา 15.30 น. เสียเวลาที่ ตม.เกือบ 2 ชั่วโมงเนื่องจาก ใน PASSPORT ของแม่ ไม่ระบุ สัญชาติ (เข้าใจว่าเนื่องจากแม่ถือใบต่างด้าว) ยังดีที่สุดท้ายแล้วก็ผ่าน  แต่ก็ทำให้ ต้องเปลี่ยนโปรแกรม ที่ตอนแรกตั้งใจว่า เมื่อถึงญี่ปุ่น จะเข้าที่พัก แล้วพาแม่ไปทานปูยักษ์ ที่ กินซ่า กลายเป็นว่าเข้าที่พักแล้วทานอาหารเย็นที่โรงแรมเลย

วันที่ 7-8 ตค.  พาแม่และเด็กๆเที่ยว DISNEY SEA กับ DISNEY LAND โดยซื้อตั๋วแบบ 2 day package ซื้อที่เคาร์เตอร์โรงแรมที่พัก  อันนี้แนะนำให้ซื้อตั๋วก่อน อย่าไปซื้อหน้า DISNEY เนื่องจาก คิวยาวมาก



บรรยากาศตอนเช้ารอบ DISNEY มองจากที่พัก































 Disney sea คร่าวๆ ครับ การแสดงกลางคืนไม่มีรูปครับ พอดีถ่ายเป็น VDO แต่ห้ามพลาดนะครับ น่าดูและอลังการมาก




 
    

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ 

"ฟันผุบริเวณฟันกรามระหว่างจัดฟัน เราจำเป็นต้องไปอุดฟันกับคุณหมอที่ทำการจัดฟันให้เราไหมคะ หรอคนละหมอได้"

จะต้องอุดกับหมอจัดฟันหรือไม่?ตอบว่า    ขึ้นกับตำแหน่งของการผุครับ เอาง่ายๆนะครับ  ถ้าผุในตำแหน่งที่ไม่สัมผัสกับฟันข้างเคียง เช่น ด้านบนที่ใช้เคี้ยว อันนี้ ไม่จำเป็นต้องอุดกับหมอจัดฟัน   แต่ถ้าผุในตำแหน่งที่ติดกับฟันข้างๆ อันนี้จำเป็นต้องถอดลวดจัดฟันก่อนการอุดฟัน กรณีนี้ต้องอุดกับหมอจัดฟันครับ

ปล.1. ปกติผมไม่ค่อยเห็นหมอจัดฟันอุดฟันให้คนไข้นะครับ เห็นแต่ถอดลวดให้คนไข้แล้วส่งต่อให้หมอท่านอื่นในคลีนิกนั้นๆ  อุดให้ครับ 
      2.ในกรณีที่ต้องถอดลวดก่อน มักจะอุดในวันที่หมอจัดฟันนัดครับ

มาต่อกันครับ

ตะลุย ซากุระจาก KAWA มา HAKONE

























ที่ YOKOHAMA















กลับบ้านแลกเงินคืน  40000 บาท ครับ

สงกรานต์ที่ผ่านมา 9-20 เมย.55 จัดเวลา 10 วัน เพิ่อพาเด็กๆไปตามล่า ซากุระ กัน โดย Trip นี้ เด็กๆมีเงื่อนไขว่า ขอนอนตื่น แบบสบายๆ (ตื่น 11 โมง ) เลยจัดให้ตามขอ ทำให้การเดินทาง ใช้วิธีนั่งรถไฟฟ้า + เช่ารถขับ เที่ยวครับ (สมาชิก พ่อ+แม่+ 2 ลูก)

การเตรียมตัวก็

1.ขอ VISA ที่ไปรษณีย์โคราช(ขอVISA ญี่ปุ่น ได้ที่ไปรษณีย์  6 แห่งทั่วไทย  แนะนำครับ สะดวก รวดเร็ว บริการเยี่ยม )  ใช้เวลา 7 วัน (ถ้าจำไม่ผิด )

2. หาตั๋ว เครื่อบิน (เดินทางกับ AIR ASIA  ต่อเครื่องที่ กัวลาลัมเปอร์ ห้องน้ำ กับสนามบินแย่มาก อันนี้ ไม่ค่อยแนะนำ )

3.วางแผนเที่ยว หาข้อมูลจาก WEB Japan guide , ห้อง BLUE PLANET,หนังสือ

4.จองโรงแรม ก็จองผ่านWeb เปรียบเที่ยบกันหลายๆ WEB นะครับ ราคาต่างกันพอสมควร

5. ทำใบขับขี่สากล ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดครับ ( 450 บาท ถ้าจำไม่ผิด     2 วันได้ครับ)

6. จองรถเช่า ผ่านทาง WEB : http://www2.tocoo.jp/?file=rentcar_inbound/gps/main ผมเลือกเช่าจาก Nissan เพราะว่าส่งคืนรถ คนละจุดกับที่รับรถ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม (ในระยะ 50 กิโลเมตรครับ)

7.ศึกษาเส้นทาง จาก google map และ http://www.hyperdia.com/en/

8. แลกตังส์ไป 150,000 บาท แลกที่ สุวรรณภูมิครับ

วันแรกของการเดินทาง

ถึงญี่ปุ่น 4 ทุ่ม ผ่าน ตม. ใช้เวลา ประมาณ 20 นาที ก็นั่งรถไฟ ไปที่พัก โรงแรม Grand  Prince  hotel แถวๆ shinagawa เดินข้ามถนนจากสถานีรถไฟก็ถึง

เช้มาก็ ย้ายไปนอนที่ HILLTON TOKYO BAY (เป็นโรงแรมในเครือของ DISNEY) เนื่องจาก มีplan พาเด็กๆ ไปเที่ยว Disney  sea และ  disney land  2 วันครับ    ไปซื้อตั๋ว ที่โรงแรมครับ   

ตามแบบฉบับ ครับรถไฟท่นั่งเข้าDisney resort



ที่พัก




วันแรกเลือกไป DISNEY SEA ก่อนเนื่องจากพยากรณ์อากาศ แจ้งว่าฝน 70 % เครื่องเล่นใน SEA อยู่ในร่มซะมากกว่าครับ

การเดินทางจากที่พักไปสวนสนุก มีบริการรถรับส่งที่หน้าโรงแรม ทุก 15 นาทีครับ





















ที่Disney Land























หลังจากเล่นเครื่องเล่นที่ Disney โปรแกรมถัดไปก็ไป ตามล่าหิมะ ที่ NIkko กัน

ก่อนไปถือโอกาสแวะ  วัดนี้ทุกคนคงรู้จัก



ซากุระแรกที่เจอ



ถึงซะที่ NIKKO  เดินทางโดยซื้อตั๋วเหมาจ่าย ALL NIKKO PASS เที่ยวที่ nikko 2 วัน พักที่ NIKKO TOBU LODGE  อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ tobu-nikko



ก่อนเข้าวัดก็ชำระล้างร่างกายและจิตใจให้สะอาด ผ่องใสกันก่อน



















หาของกิน ที่ NIKKO ไม่ยากครับ





วันรุ่งขึ้นก็ไปลุยแถบ ทะเลสาบ สิ่งที่เจอ !!!!!!กลาง เมย.







สตอร์เบอรรี่ ที่NIKKO อร่อยมาก อากาศเย็นๆ ลูกโตๆ รสชาติหวานฉ่ำ



จาก Nikko ก็กลับพักที่โตเกียว 2 คืน แถว ueno



















ไปเดินตลาดกัน







เช้าวันต่อมาก็ไปรับรถที่เช่าไว้แถวๆ สวน Ueno เพื่อขับไปเที่ยว KAWAGUCHIKO , HAKONE , YOKOHAMA , วกกลับมา TOKYO

Kawa พักที่ K's HOUSE FUJI  เด็กๆชอบมาก เพราะว่า เช้าไปเที่ยว เย็นๆไปซื้ออาหารในซุปเปอร์ มาทำกินกันเองที่ ที่พัก  ขอแนะนำ จองห้องที่มีห้องน้ำในตัวนะครับ



ฟูจิซังก็ปรากฎตัว
























































ไปส่งลูกไปโรงเรียนก่อนนะครับเดี๋ยวมาUPเพิ่มครับ

















 

ได้ความรุ้เพิ่มอีกเยอะเลย นอกจากได้ชมรูปสวยๆแล้ว ขอบคุณมากครับ

สรุปการเดินทาง

1. ขอนแก่น -  กทม.   

2. กทม. - หาดใหญ่ 

3. หาดใหญ่ - ปากบารา จ.สตูล

4. ปากบารา - เกาะ หลีเปะ     ค่าเรือ  ไป-กลับ  900 บาท/คน

5. ค่าที่พัก สิตารีสอร์ท ช่วง High  7900/คืน มีหลายราคาให้เลือกครับ

6. ค่าเช่าเรือดำน้ำ  รอบใน 1500/วัน   รอบนอก 2000/ วัน แนะนำลำนี้เจ๋งครับ 081-5406266 เมฆ 

ปีใหม่ที่ผ่านมา จัด Trip ไปอาดัง-หลีเปะ เอารูปมาฝาก เผื่อมีคนอยากไปครับ

ต้อนรับปีใหม่ 2555 ที่ หมู่เกาะ อาดัง-ราวี-หลีเปะ

วันเดินทาง : 30 ธันวาคม 2554 - 3 มกราคม 2555

สมาชิก : Trip นี้ มีสมาชิก 2 ครอบครัว จำนวน 9 คน อายุ 6 - 45 ปี  

อุปกรณ์บันทึกความทรงจำ : Canon G10 + Housing

เป็นอีก 1 Trip ที่สนุกสนาน กันมาก โดยเฉพาะเด็ก ๆ

6.00 น. วันที่ 30 ธค.2554 เป็นเช้าที่ต้องรีบตื่นเพื่อเตรียมตัวเดินทาง จาก ขอนแก่น มายังท่าเรือปากบารา ให้ทันเรือเที่ยวสุดท้าย เวลา 15.00 น. สุดท้ายก็ถึงท่าเรือปากบารา ในเวลาประมาณ  14 .00



15.00 น.พร้อมเดินทางด้วยเรือ Speed boat ค่าโดยสาร ไป-กลับ  900 บาท/คน



นั่งเรือมาประมาณ 1.30  ชม. แวะที่ ตะรุเตา 15 นาที ก็ขึ้นไปพิสูจน์ หาดทรายที่เขาเล่าลือ ว่าเดินเหยียบแล้วทรายจะร้อง โอ๊ย  แปลกดีแหะ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ต้องไปพิสูจน์ดู นะ



จากนั้นเรือจะแวะที่ เกาะไข่ ให้ถ่ายรูป สะพานหินธรรมชาติอีกหนึ่งสัญญลักษณ์ของหมู่เกาะตะรุเตา-อาดัง



ประมาณ 18.00 น.ถึงซักที หลีเปะ แต่ต้องลงเรือที่ โป๊ะ แล้วค่อยต่อเรือหางยาวเข้าไปที่เกาะ อีกคนละ 50 บาท



ถึงที่พักซะที ล้างมือล้างเท้าก่อน



อาหารค่ำมื้อแรก ได้พบกับกลุ่มดาราที่มาช่วยงานการกุศล เห็นมากันหลายคน ทั้งโป๊ป แจ๊บ ฯลฯ เด็กๆ ตื่นเต้นกันใหญ่  น้องๆเค้านิสัยดี น่ารัก ไม่ถือตัว ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีก



วันรุ่งขึ้นและวันถัดไป ก็ดำน้ำและดำน้ำ แต่เป็น Snorkeling ทั้งหมดครับ ดูรูปแทนคำบรรยายนะครับ


















































ขึ้นจากน้ำแล้วเป็นแบบนี้