thaiprivatedent.com

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ การประชุมสัมนา เรื่อง เติมพลังจิต เพิ่มพลังใจ สานสายใยทันตแพทย์ จัดโดย คณะอนุกรรมการสร้างเสริมผดุงเกียรติวิชาชีพทันตกรรม ทันตแพทยสภา วันที่ 3-4 สิงหาคม 2552 ณ ห้องประชุมสี สิริสิงห อาคารสมเด็จย่า93 คณะทันตแพทยศาสร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   ตามรายละเอียดดังนี้
(http://img339.imageshack.us/img339/2020/projectp1.gif)

(http://img170.imageshack.us/img170/6409/projectp2.gif)

(http://img269.imageshack.us/img269/1040/projectp3.gif)

(http://img514.imageshack.us/img514/293/projectp4.gif)

(http://img199.imageshack.us/img199/2571/projectp5.gif)

รายละเอียดหาดูได้จากที่ http://www.dentalcouncil.or.th/content/hotnews/detail.php?type=1&id=309

ขอบคุณค่ะพี่ปัญญา

ใครว่างไปฟังกันหน่อย ลงทะเบียนหน้างานได้ฟรี  เรื่องน่าฟังทั้งนั้น 

ขอส่งคนโพสนั่นแหละไปฟังและรับผิดชอบ นำมาเผยแพร่ในนี้ด้วยค่ะ  อิอิอิ  :19: :3: :3: :3:

ไม่ต้องส่ง ผมเป็นหนึ่งอนุกรรมการชุดนี้ของทันตแพทยสภา   ต้องไปอยู่แล้ว  ทั้ง2 วัน  จะมารายงานให้ทราบ  แต่คงไม่ละเอียดเท่าไปเองนะครับ 

งานนี้ไปทำหน้าที่เก็บเงินค่าสปอนเซอร์บู๊ทของบริษัทที่มาออกบู๊ท มีทั้งหมด 12 บู๊ท

อิอิ ก็คิดว่าต้องยังงั้นแหละค่า 5555555 :3: :3:

ไปฟังมาแล้ววันนี้ ได้รับการยืนยันจากพี่ไพศาล เลขาธิการทันตแพทยสภา รับปากว่านำลงในเวบทันตแพทยสภา และวารสารของทันตแพทยสภาฉบับต่อไป  ไปตามหาอ่านเอาก็แล้วกัน  แต่คราวหลังไปฟังเองดีกว่านะครับ ได้รายละเอียดครบถ้วนมากกว่าที่จะลงในเวบหรือในวารสาร   ลงทะเบียนก็ฟรี อาหารก็ฟรี รับลงทะเบียนล่วงหน้าแค่ 350 ท่านเท่านั้น  น่าเสียดายที่คนไปฟังน้อย  โดยเฉพาะตอนเปิดงาน อายแทนประธานพิธีเปิด

ขอบคุณค่ะพี่ปัญญา
อยู่ ตจว.ก็เสียเปรียบค่ะ กว่าจะเดินทางไปถึงกว่าจะฟังจบกว่าจะเดินทางกลับถึงบ้าน .... :15: :15: :1001:

พี่แดง ที่เบตง ยะลา ยังมาเลย 
เท่าที่สังเกตุ หมอต่างจังหวัด ในภาครัฐมาเอยะกว่าหมอ กทม.นะ 
มีประชุมทันตแพทย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขหลังสัมนาด้วย

นั่นคงเพราะว่าเค้าเป็นกรรมการอะไรซักอย่าง หรีออาจจะมีอะไรอย่างอื่นร่วมด้วยจึงมามั้ง อิอิ คิดเอง เออเองค่ะ  :3:

เจอพี่จุฬาฯคนนึง รุ่น22 ก่อนผม 14 รุ่น ยังมาประชุมเลย  อายุน่าจะ 69-70 แล้ว

โห นี่คงมาหาเพื่อนเก่าแล้ว คงมะล่ายสนใจประชงประชุมอะไรแล้วววว 5555 :3:

คงจะไม่ใช่นะ เพราะพี่เค้านั่งอู่คนเดียว ตลอดการประชุม มานั่งข้างๆ ผมเลยชวนคุยฆ่าเวลา
เพราะผมก็ชอบนั่งคนเดียวเหมือนกัน ถึงแม้จะมีเพื่อนมาประชุมด้วยหลายคน ไม่อยากให้ใครรอ และไม่อยากรอใครนานๆ

อิอิ ง้านทุกคนควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างอย่างมากๆนะคะ อิอิ  :3:

มาเล่าเรื่องที่พระที่นิมนต์มา ท่านเล่าเรื่องที่น่าประทับใจมากเรื่องหนึ่ง 

เด็กชายKelly ในวัย12ขวบ ยากจน ไม่มีพ่อแม่ เพราะท่านจากไปก่อน อดออมเก็บเงินได้ 45 เซ็นต์ วันหนึ่งด้วยความอดอยากหิวโซ เดินโซซัดโซเซไปจนพบบ้านหลังหนึ่ง  ตรงเข้าไปเคาระประตูขออาหารกิน  ได้พบสาววัยกลางคนคนหนึ่ง เจ้าของบ้านชื่อมาเรีย  เห็นเด็กชายที่แต่งตัวมอมแมม หน้าตาแสดงความทรมานจากการอดอาหารมานาน จึงเข้าไปในบ้านหานมแก้วใหญ่มาให้เด็กชายKelly เด็กชายรับนมแก้วนั้นมาดื่มด้วยความหิวกระหาย เมื่อดื่มนมแก้วใหญ่หมดแล้ว จึงได้หยิบเงินทั้งหมดที่มีอยู่ 45 เซ็นต์มอบให้กับสาวมาเรีย  แต่มาเรียคืนให้ บอกว่าเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นเถอะ  เด็กชายKelly กล่าวขอบคุณแล้วอำลาจากไป

มาเรียอยู่ต่อมาในบ้านหลังนั้นคนเดียว ไม่มีญาติคอยดูแลเอาใจใส่ นานหลายสิบปี  จนปีหนึ่งเกิดเจ็บป่วย ไปตรวจร่างกายพบว่าเป็นโรคร้ายแรงที่โรงพยาบาลในหมู่บ้านไม่สามารถรักษาได้  ต้องส่งต่อไปรักษาในเมือง  ก่อนจะไปมาเรียรวบรวมเงินทั้งหมดที่มีได้เงิน 100,000 เหรียญ  เธอขายบ้านที่อยู่มานานหลายสิบปีไป ได้เงินรวม 300,000 เหรียญ  เดินทางเข้าเมืองไปโรงพยาบาลที่ถูกส่งต่อไป  ได้หมอผู้ชายใจดี ที่มองหน้ามาเรียด้วยใจอารี  บอกว่า ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะรักษาคุณให้หายให้ได้  จากวันนั้น คุณหมอได้รักษามาเรียอยู่นานปีกว่าจนกระทั่งโรคร้ายที่มาเรียเป็นอยู่หายจนสนิทดี  มาเรียจึงเริ่มกังวลว่าค่ารักษาที่แพงมากจนเงิน 300,000 เหรียญที่เตรียมไว้จะไม่พอ 

พยาบาลได้นำเอกสารค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมดมาให้มาเรียดูหนาเตอะ  ดูยอกค่ารักษาทั้งหมด เป็นเงิน 500,000 กว่าเหรียญ มาเรียรู้สึกตกใจมาก  ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี  แต่เหลือบไปเห็นกระดาษแนบท้ายแผ่นหนึ่ง  เป็นใบเสร็จรับเงิน ค่ารักษาทั้งหมด   มีข้อความเขียนไว้ตรงที่ว่างว่า  ด้วยความขอบคุณ จากเจ้าของเงิน 45เซ็นต์ หมอHoward Kelly ทำให้มาเรียย้อนนึกถึงเด็กชายที่แต่งตัวมอมแมมที่มาขออาหารกินคนนั้น  ด้วยน้ำตานองหน้า ขอบคุณหมอKelly ที่ช่วยรักษาโรคร้ายให้จนหายได้โดยช่วยจายค่ารักษาให้ทั้งหมด

หลวงพี่ที่นิมนต์ ขออภัยจำฉายาไม่ได้  ได้ยกตัวอย่างว่า หมอโฮเวิร์ด น่าจะคือพวกเราทุกคน  และ มาเรีย น่าจะหมายถึง ประชาชนทุกคนที่จ่ายภาษีมาให้พวกเราได้มีโอกาสเรียนจบเป็นแพทย์ และทันตแพทย์ นั่นเอง 

ซึ้งจังเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ :15: :4: